ลองมาดู เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลก
เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลก
เครื่องคิดเลข เป็นเครื่องมืออิเล็คทรอนิคส์ ที่ใช้ในการคำนวณตัวเลข ทั้ง บวก ลบ คูณ หาร เพื่อให้ได้คำตอบออกมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แล้วกว่าจะมาเป็น “เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลก” มันเป็นอะไรมาก่อน มีการพัฒนามาอย่างไร ลองมาดูกัน
ในอดีตคนเราเริ่มรู้จักการนับจำนวนมานานแล้ว โดยการนับจำนวนสมัยแรกๆนั้น อาศัยเพียงนิ้วมือเพื่อช่วยในการนับ แต่ว่านิ้วมือของคนเรานั้นมีเพียงแค่สิบนิ้ว จึงแก้ปัญหาด้วยการเอาสิ่งของอย่างอื่นเข้ามาช่วยในการนับแทน เช่น ก้อนหิน ก้อนกรวด ปมเชือก เปลือกหอย แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนเรา มีการพัฒนาด้านการคำนวณมาขึ้น ทั้งทางด้านคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์
บรรดาเหล่านักคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จึงได้คิดค้นอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำมาช่วยในการนับและการคำนวณขึ้น และเมื่อประมาณ 2600 ปี ก่อนคริตกาล ได้มีชาวจีน ได้ประดิษฐ์เครื่องมือการนับเรียกว่า ลูกคิด (Abacus) ซึ่งถือเป็น เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลก สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการคำนวณที่ค่อนข้างง่าย ลูกคิดถือว่าเป็นเครื่องคิดเลขที่ยังมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
จนถึงในปี ค.ศ. 1617 จอห์น เนปียร์ (John Napier) นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ ได้คิดค้นอุปกรณ์ที่ช่วยในการคูณ การหาร หรือถอดกรณฑ์ให้ง่ายขึ้น เรียกอุปกรณ์ชนิดนี้ว่า แท่งเนเปียร์ (Napier’s bone)
ในปีต่อ วิลเลียม ออกเกด (William Oughtred) นักคณิตศาสตร์ ชาวอังกฤษ ได้ผลิตสิ่งที่เรียกว่า ไม้บรรทัดคำนวณ (Slide Rule) เพื่อช่วยในการคูณ ถูกนำใช้กันมากในงานด้านวิศวกรรมและงานด้านวิทยาศาสตร์
ในปี ค.ศ. 1623 เบล์ส ปาสคาล (Blaise Pascal) นักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ ชาวผรั่งเศส ได้ถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ว่าคือเขาคือผู้ที่ได้คิดค้น “เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลก” ซึ่งในสมัยนั้นเปรียบเป็นเครื่องจักรที่สามารถบวกและลบได้ในรูปแบบของจำนวนเลขฐานสิบ โดยใช้ฟันเฟืองเป็นตัวทดกัน วางขนานเป็นแนวนอน โดยตำแหน่งของวงล้อนี้จะมองเห็นจากภายนอก ส่วนตัวเลขจะไปปรากฎที่ฝาครอบวงล้อ แต่ละวงจะมีฟันเฟืองอยู่ 10 อัน ซึ่งแต่ละอันจะแทนเลข 1 หลักนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเฟืองหมุนครบ 10 ก็จะมาเริ่มต้นที่ 0 ใหม่ แล้วทำให้เฟืองที่อยู่ถัดไปหมุน 1 หลัก ซึ่งเป็นการทดเลขขึ้นไปนั่นเอง จากการทำงานของเครื่องบวกเลขนี้ เป็นหลักการเช่นเดียวกับการวัดระยะทาง ตามที่ปรากฏบนหน้าปัดรถยนต์ทั่วๆไป
ในปี ค.ศ. 1646 กอทฟริด วิลเฮลม ลิปนิซ (Gottfried Wilhelm Leibniz) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์เครื่องคำนวณที่เรียกว่า อาริทโมมิเตอร์ (Arithmometer Machine) ซึ่งมีความสามารถในการคูณ หารและหารากที่สอง
จากนั้นก็ได้มีการวิวัฒนาการของเครื่องคิดเลขมาเรื่อยๆ จนถึงยุคของ วิลเลี่ยม สเวียด เบอร์ร็อคส์ (William Seward Burroughs) เขาได้ประดิษฐ์เครื่องมือในการคำนวณขึ้นมาเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในปี 1885 สำหรับ Calculating Machine ซึ่งได้สิทธิบัตรในปี 1888
จนมาถึงในยุคปัจจุบันเครื่องคิดเลขถูกพัฒนาขึ้นมาจากเดิมอย่างมาก และราคาก็ถูกลงมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งมีฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆเข้ามาช่วยในการคำนวณมาขึ้น เช่น เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ (Science Calculator) ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย มีสูตรการคำนวณทางคณิตศาสตร์ให้ได้ใช้งานการคำนวณได้รวดเร็วขึ้น
สุดท้ายเครื่องคิดเลขเป็นสิ่งที่อยู่กับเราทุกที่ พบเห็นมันได้ทั่วไป และปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องคิดเลขยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน แม้แต่ในโทรศัพท์มือถือที่เราพกกันอยู่ทุกวัน ก็ยังมีฟังก์ชันเครื่องคิดเลข ที่เมื่อเราต้องการใช้เมื่อไหร่ก็เปิดมันขึ้นมา